เครื่องรางญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ใครไปก็ต้องซื้อเครื่องรางติดไม้ติดมือกลับมาด้วยเสมอ เพราะเครื่องรางแต่ละอย่างมีจิตวิญญาณและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง แต่ก็มักจะมีกฎของญี่ปุ่นที่ว่า “ต้องนำเครื่องรางกลับไปคืน” ทุกๆ 1 ปี และทำการซื้อเครื่องรางมาใหม่เป็นการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความสะอาดทางจิตวิญญาณ และการให้เกียรติต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เครื่องรางนั้นเกี่ยวข้อง

 

ผิดกับของที่ไทย ที่เราเช่าพระมายาวเลยไม่มีการเปลี่ยนเครื่องรางหรือไปลงคาถาอะไรเพิ่มเติม เพราะฉะนั้นในบทความนี้เราจะพูดถึงหลักการนำเครื่องรางไปคืนมันมีไว้เพื่ออะไรกันแน่ ใครอยากรู้ไปดูกันครับ

เหตุผลหลักที่เครื่องราง ญี่ปุ่น ต้องนำกลับไปคืนทุกปี

การรักษาความสะอาดทางจิตวิญญาณ: ในศาสนาชินโต เครื่องรางถือเป็นสัญลักษณ์ที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อกับเทพเจ้าหรือวิญญาณ การใช้เครื่องรางเป็นเวลานานอาจถือได้ว่าเป็นการสะสมของ “ความไม่บริสุทธิ์” หรือความไม่สะอาดทางจิตวิญญาณ ดังนั้นการนำเครื่องรางกลับไปที่วัดหรือศาลเจ้าทุกปีจึงเป็นวิธีหนึ่งในการคืนเครื่องรางให้กับเทพเจ้า เพื่อทำการล้างหรือทำความสะอาดทางจิตวิญญาณ

การขอพรใหม่: การคืนเครื่องรางทุกปีเป็นการแสดงความเคารพและการขอพรใหม่จากเทพเจ้า เครื่องรางในญี่ปุ่นมักจะมอบให้กับผู้คนเพื่อขอความช่วยเหลือหรือการคุ้มครองในปีที่ผ่านมา และเมื่อสิ้นปีหรือในช่วงปีใหม่ ผู้คนมักจะไปขอพรใหม่ โดยการคืนเครื่องรางเก่าที่มีเพื่อขอพรใหม่และเพื่อให้ได้รับการคุ้มครองตลอดปีใหม่

การรักษาความสัมพันธ์กับศาลเจ้าหรือวัด: การนำเครื่องรางไปคืนที่ศาลเจ้าหรือวัดทุกปีเป็นการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นการแสดงถึงความเคารพในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และการรักษาพิธีกรรมทางศาสนา การทำเช่นนี้ยังเป็นการทำให้เกิดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชนและความศรัทธาในศาสนาชินโต

การหมุนเวียนและการเสริมสร้างพลัง: การนำเครื่องรางไปคืนทุกปีมีส่วนช่วยให้พลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในเครื่องรางนั้นไม่สะสมจนเกินไปหรือกลายเป็นสิ่งที่หมดพลัง เครื่องรางใหม่ที่ได้รับมาจะช่วยเสริมสร้างพลังใหม่ ๆ ในชีวิต การหมุนเวียนเครื่องรางเป็นการทำให้พลังศักดิ์สิทธิ์นั้นมีการเคลื่อนไหวและไม่ค้างคา

ญี่ปุ่น

ทำไมเครื่องราง ญี่ปุ่น ถึงต้องเสริมพลัง พลังหมดหรอ?

คำตอบ คือ ใช่ครับ พลังหมด การที่เครื่องรางญี่ปุ่นถูกมองว่ามีพลังหมดไปหรือจำเป็นต้องไปเสริมพลังในทุก ๆ ปี เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดทางศาสนาชินโตและความเชื่อเกี่ยวกับพลังงานหรือ “คามิ” (kami) ที่มีอยู่ในธรรมชาติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาชินโต

เหตุผลที่เครื่องรางญี่ปุ่นอาจถูกมองว่ามีพลังหมดไปหรือจำเป็นต้องไปเสริมพลัง:

  1. พลังทางจิตวิญญาณที่ต้องหมุนเวียน: เครื่องรางในศาสนาชินโตไม่ได้ถือว่าเป็นวัตถุที่มีพลังตลอดไป แต่เป็นสิ่งที่ถูกใช้เพื่อเสริมสร้างความโชคดี หรือการปกป้องในช่วงเวลาหนึ่ง โดยมีความเชื่อว่า พลังจากเทพเจ้าหรือ “คามิ” ที่อยู่ในเครื่องรางนั้นสามารถลดลงได้เมื่อเวลาผ่านไป การหมุนเวียนเครื่องรางทำให้พลังนั้นสามารถรีเซ็ต หรือเสริมสร้างใหม่ให้กับผู้ถือเครื่องรางได้

     

  2. การหลุดพ้นจากความไม่สะอาดทางจิตวิญญาณ: ในศาสนาชินโต เครื่องรางมักเชื่อมโยงกับการคุ้มครองจากสิ่งไม่ดีต่าง ๆ เช่น โรคภัยไข้เจ็บ หรืออุบัติเหตุ การใช้เครื่องรางไปนาน ๆ อาจนำไปสู่การสะสมของความไม่บริสุทธิ์ หรือ “คามิ” ที่ถูกเบี่ยงเบนไปจากพลังที่เป็นบวก ดังนั้นการคืนเครื่องรางและรับเครื่องรางใหม่เป็นการรีเซ็ตพลังและป้องกันการสะสมของสิ่งไม่ดี

     

  3. ความเชื่อในการมีพลังใหม่ทุกปี: ทุกปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นใหม่ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น โดยการนำเครื่องรางไปคืนและรับเครื่องรางใหม่ในช่วงปีใหม่จึงถือเป็นการขอพรใหม่ และให้เครื่องรางมีพลังใหม่เพื่อเสริมชีวิตให้ดีขึ้นในปีถัดไป เครื่องรางที่ถูกมอบใหม่จะมีพลังที่เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการในปีนั้น ๆ

     

  4. การหมุนเวียนของพลังงาน: พลังงานที่อยู่ในเครื่องรางเชื่อว่าไม่ได้อยู่คงที่ แต่มีการไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง การนำเครื่องรางไปคืนและรับใหม่จากศาลเจ้าจึงเป็นการรักษาพลังงานนี้ให้สดใหม่และไม่ตกตะกอน ความเชื่อดังกล่าวสะท้อนถึงแนวคิดของการหมุนเวียนพลังงานในธรรมชาติและการทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีการเคลื่อนไหวและไม่หยุดนิ่ง

     

  5. การให้เกียรติเทพเจ้า (คามิ): การนำเครื่องรางไปคืนเป็นการแสดงความเคารพต่อเทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (คามิ) การคืนเครื่องรางเป็นการขอบคุณและให้เกียรติเทพเจ้าสำหรับการคุ้มครองที่ได้รับมาในปีที่ผ่านมา และในการรับเครื่องรางใหม่ เป็นการเชื่อมต่อและขอพรใหม่ให้กับตัวเองในปีถัดไป

ถ้าเครื่องรางอยู่ใกล้ครบ 1 ปี แปลว่าพลังอ่อนลงและใกล้หมดแล้ว?

ในความเชื่อของศาสนาชินโต เครื่องรางที่ใช้มานานเกินไปไม่ได้หมายความว่าพลังของมันจะ “หมด” หรือ “อ่อน” โดยตรง แต่จะถูกมองว่าอาจมีการสะสมของสิ่งที่ไม่สะอาดทางจิตวิญญาณ (หรือสิ่งที่เป็นลบ) ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องรางในการคุ้มครองหรือการเสริมโชคของผู้ถือเครื่องรางนั้นๆ

เรียกง่ายๆว่า พลังเท่าเดิม แต่มีสิ่งด้านลบเยอะขึ้นทำให้ไปหักล้างกับพลังของเครื่องรางญี่ปุ่นที่มีอยู่ดังนั้น การนำเครื่องรางไปคืนที่ศาลเจ้าทุกปี หรือในช่วงเวลาที่กำหนด จึงเป็นวิธีการที่ช่วย “ล้าง” หรือ “รีเซ็ต” พลังงานของเครื่องรางให้กลับมาสดใหม่ และเพื่อให้เครื่องรางนั้นกลับไปได้รับพลังจากเทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง 

พลังของเครื่องรางในแต่ละปีนั้นจะได้รับการเสริมเติมเต็มใหม่เมื่อได้รับเครื่องรางใหม่จากศาลเจ้า ซึ่งหมายถึงเครื่องรางจะกลับมามีพลังที่เต็มเปี่ยมสำหรับปีถัดไปนั่นเองครับ

สรุป

การนำเครื่องรางไปคืนที่ศาลเจ้าหรือวัดทุก ๆ 1 ปี เป็นส่วนหนึ่งของประเพณีและการปฏิบัติทางศาสนาชินโต ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรักษาความสะอาดทางจิตวิญญาณ, การขอพรใหม่, การรักษาความสัมพันธ์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และการเสริมสร้างพลังใหม่ให้กับชีวิตครับ

ใครที่ไปซื้อเครื่องรางแห่งความโชคดีมาแล้วก็อย่าลืมเอามาซื้อหวยสักงวดเผื่อถูกรางวัลที่ 1 เปลี่ยนชีวิตได้เลยนะครับ

Categories:

Tags:

Comments are closed